กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการแจก ต้นกล้ากัญชา โดยให้ 2 ต้น ต่อครัวเรือน วางเป้าแจกถึง 1 ล้านต้น (13 มิ.ย. 2565) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาส ร่วมพิธีเปิดงาน “มหกรรม 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน และพิธีมอบต้นกล้ากัญชา 1,000 ต้น ให้กับตัวแทนชุมชน ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า
กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมวิชาการเกษตรจะแจกต้นกัญชาให้ประชาชนที่สนใจครัวเรือนละ 2 ต้น
ตามเป้าหมาย 1 ล้านต้นของรัฐบาลหรือประมาณ 500,000 ครัวเรือน ภายหลังการปลดล็อกวันที่ 9 มิ.ย. 2565 ให้กัญชา กัญชง และกระท่อม ไม่เป็นพืชในบัญชียาเสพติดอีกต่อไป ทั้งนี้สามารถลงทะเบียนแจ้งความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.65 เป็นต้นไป ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร (ศวพ.) ของกรมวิชาการเกษตรทั่วประเทศซึ่งมีอยู่ 53 จังหวัด กรณีจังหวัดใดไม่มี ศวพ.ให้ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนั้นๆ หรือผ่านระบบออนไลน์
นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “กระทรวงเกษตรฯ เตรียมแจกต้นกัญชาให้ครัวเรือนละ 2 ต้น ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ไทย ซึ่งพันธุ์ที่แจกหลักๆ คือ พันธุ์อิสระ 01 พัฒนาพันธุ์โดยกรมการแพทย์ กรมวิชาการเกษตร และมูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นพันธุ์รับรองเมื่อ 29 ม.ค.64 นอกจากนั้นจะมีกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ในโครงการนี้ด้วย ต้องบอกว่าสายพันธุ์ของไทยไม่เป็นรองใคร มีสายพันธุ์ไทยต่างๆ ที่เหมาะสมกับภูมิประเทศ เช่น สายพันธ์หางกระรอก ตะนาวศรี หางเสือ ภูพาน ที่พี่น้องประชาชนหาเมล็ดมาปลูกได้ หากจับจองใน 1 ล้านต้นไม่ทัน
อีกทั้งขณะนี้มีผู้มาขอขึ้นทะเบียนพันธุ์กัญชาอย่างต่อเนื่อง ฉนั้นอนาคตจะเห็นสายพันธุ์ไทยดีๆ อีกมาก อย่างไรก็ตามฝากเตือนประชาชนว่า เนื่องจากขณะนี้มีเมล็ดพันธุ์ผิดกฎหมายลักลอบจำหน่ายกันแพร่หลาย เพราะฉนั้นขอประชาชนตรวจสอบก่อนซื้อโดยให้พิจารณาจากใบอนุญาตของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งจะต้องติดแสดงไว้ให้ประชาชนเห็นชัดเจน ผู้ค้ารายใดไม่แสดงให้เห็น ต้องคิดไว้ก่อนว่าอาจเป็นการนำเข้าไม่ถูกต้องหรือเป็นพันธุ์ที่ยังไม่ได้รับรองจากรมวิชาการเกษตรซื้อไปอาจไม่งอกหรือเปอร์เซ็นต์การงอกต่ำไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป”
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรวางแผนแจก 1 ล้านต้นระหว่างเดือน มิ.ย.- ธ.ค. 65 โดยจะจัดแจกได้เดือนละ 1 – 2 แสนต้น ผู้ลงทะเบียนจะได้รับต้นกัญชาหลังลงทะเบียนประมาณ 30 วัน สาเหตุมาจากเพิ่งมีการปลดจากบัญชียาเสพติด กรมวิชาการเกษตรต้องเริ่มเพาะซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 21 – 30 วันต่อรอบการผลิต ดังนั้นแต่ละพื้นที่จะรับต้นกัญชาได้ในเวลาที่ต่างกันจนครบ 1 ล้านต้น สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑลสามารถลงทะเบียนที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่ 16 มิ.ย.หรือผ่านระบบออนไลน์ซึ่งกรมฯ จะออกแบบให้ใช้ง่ายที่สุด
นายระพีภัทร์ กล่าวไว้ว่า “กรมได้ตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จพืชกัญชา กัญชง กระท่อม ที่ตึกกสิกรรม กรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสายด่วน (hotline) 1174. เป็นศูนย์รวมความรู้หรือตอบข้อสงสัยเป็นคู่คิดให้กับพี่น้องประชาชนในทุกด้านของพืชทั้ง 3 ชนิด เพราะเรามองว่าอนาคตจะมีการพัฒนาระบบการปลูก การค้าไปอีกหลากหลายด้าน ประชาชนจะไม่ต้องไปเสียเวลาให้มาถามที่นี่จุดเดียวจบครบทุกเรื่อง และอนาคตจะมีการปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนทุกมิติ”
ค่า FT ทำให้ การไฟฟ้า ได้กำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?
ค่า FT เป็นเพียงกลไกในการปรับราคา ค่าไฟฟ้า ให้เคลื่อนไหวตามค่าใช้จ่ายที่อยู่นอกการควบคุมของการไฟฟ้าเท่านั้น โดยเฉพาะปัจจัยราคาเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากค่าฐานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกำไรของการไฟฟ้าแต่อย่างใด
โดยทั่วไปแล้ว ผลประกอบการของการไฟฟ้า ถูกกำหนดไว้ในค่าไฟฟ้าฐาน และภาครัฐจะพิจารณาทบทวนผลประกอบการของการไฟฟ้าทุก ๆ ปี เพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หากมีผลประกอบการแตกต่างจากที่ภาครัฐเห็นสมควร ส่วนเกินนั้นก็จะถูกนำมาคำนวณคืนให้ประชาชนผ่านค่า FT
ทำไม ค่า FT ปี 2565 ถึงขึ้นสูง 24.77 สตางค์ต่อหน่วย
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 65 กกพ. มีมติให้ปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2565 โดยให้เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย โดยให้เหตุผลหลักที่ต้องมีการพิจารณาปรับค่า Ft ครั้งนี้คือ
ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 65 เพิ่มขึ้น เท่ากับประมาณ 68,731 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นจากประมาณการงวดก่อนหน้า (เดือน ม.ค. – เม.ย. 65) ที่คาดว่าจะมีความต้องการพลังงานไฟฟ้า เท่ากับ 65,325 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 5.21%
สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 65 ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็น เชื้อเพลิงหลัก 55.11% ของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด นอกจากนี้เป็นการซื้อไฟฟ้าจาก ต่างประเทศ (ลาวและมาเลเซีย) รวม 19.46%
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป